ขวดนมที่ลูกตัวน้อยใช่ดื่มกินอยู่ทุกวันนี้ คุณแม่จะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันปลอดภัยกับเด็กทารกจริงๆ มันไม่ใช่แค่เรื่องของการทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคเท่านั้น แต่มันขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาผลิตอีกด้วย
ในการผลิตขวดนมเด็ก โรงงานหลายๆแห่งจะใช้พลาสติกชนิด Polycarbonate เป็นวัตถุดิบชิ้นสำคัญในการผลิต โดยพลาสติกชนิด Polycarbonate เป็นพลาสติกเนื้อแข็งใส สามารถทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี แต่สารเคมีที่นำมาใช้ในการผลิตพลาสติกชนิด Polycarbonate นี้ คือสารที่เรียกว่า BPA ต่อมาเมื่อคุณแม่นำขวดนมที่มีสาร PBA ไปใช้เป็นเวลานานมันก็อาจหลุดร่อน และละลายปะปนลงในนมได้ อีกทั้งมันยังสามารถละลายเจือปนได้เร็วขึ้นเมื่อสัมผัสกับน้ำร้อนอีกด้วย
โทษของสาร PBA จากขวดนมจะส่งผลต่อการพัฒนาของระบบประสาท รวมทั้งระบบสืบพันธ์ของเด็ก อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของการก่อมะเร็งต่อมลูกหมาก , มะเร็งเต้านม ในคนวัยหนุ่มสาวได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ในปัจจุบันประเทศแคนาดา , สหภาพยุโรป , จีน , มาเลเซีย และแอฟริกาใต้ ได้ออกคำสั่งห้ามผลิต และจำหน่ายขวดนมที่มีสาร PBA แล้ว ส่วนในประเทศไทยก็มีการประกาศเตือนคุณพ่อ – คุณแม่ เพื่อให้ทราบถึงความเสี่ยงของสาร PBA ในขวดนมเด็กเป็นระยะๆ
วิธีการเลือกขวดนม , ขวดน้ำให้ทารก
- การเลือกซื้อขวดนม , ขวดน้ำ ที่ฉลากระบุว่า ปลอดสาร BPA หรือ BPA Free แทนขวดนมซึ่งผลิตมาจากพลาสติกชนิด Polycarbonate อันอุดมไปด้วยสาร BPA
- ควรหลีกเลี่ยงขวดนมที่ผลิตจากพลาสติกชนิด Polycarbonate โดยคุณสามารถดูคุณสมบัติของมันได้จากบรรจุภัณฑ์
- แนะนำให้เลือกใช้ขวดนมที่ผลิตมาจากพลาสติก Polypropylene แทน
ข้อควรระวังในการใช้ขวดนมของทารก
- ห้ามฆ่าเชื้อโดยการอุ่นขวดนมเด็กที่ผลิตมาจากพลาสติกชนิด Polypropylene กับไมโครเวฟ เนื่องจากอาจทำให้สาร BPA ละลายปะปนออกมา แต่ควรแช่ขวดนมในน้ำอุ่นแทน โดยให้คุณตั้งหม้อจนน้ำมีไอร้อนขึ้นมา แล้วค่อยหย่อนขวดนมลงไป
- ควรทิ้งขวดนมทันทีเมื่อพบรอยร้าว , รอยขีดข่วน หรือขวดเกิดการเปลี่ยนสี
การตัดสินใจเลือกซื้อขวดนม ไม่ได้ตัดสินใจจาก รูปร่าง ราคา และความสวยงามเท่านั้น หากแต่ต้องนึกถึงผลกระทบระยะยาวอันอาจเกิดขึ้นกับลูกน้อยของคุณอีกด้วย ซึ่งถ้าลูกเป็นอะไรไปขึ้นมารับรองว่าไม่คุ้มแน่ เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ขวดนมที่ปลอดสาร BPA จะทำให้คุณพ่อ – คุณแม่ เกิดความมั่นใจได้ว่าลูกจะปลอดภัยจากสารอันตรายอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะเลือกใช้ขวดนม อย่าลืมมองหาคำว่า BPA Free