เสียงร้องของเจ้าตัวน้อย เป็นสิ่งที่สร้างความปวดหัวให้กับคุณพ่อ – คุณแม่มือใหม่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเกิดความสงสารลูก ทั้งหงุดหงิดไปพร้อมๆกัน แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะฉะนั้นลองนำวิธีที่เราบอกวันนี้ไปปฏิบัติกันดู เพื่อจะช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้บ้าง
- เช็คสภาพโดยรอบว่ายังปกติดีอยู่ไหม เพราะตามปกติแล้วเสียงร้องของทารก มักจะเป็นเครื่องบ่งบอกว่า มีสิ่งผิดปกติที่เขาให้คุณได้รับรู้ เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ควรทำ คือ ตรวจสอบดูว่ามีสิ่งใดที่อาจสร้างความไม่สบายตัวให้แก่ลูกอยู่หรือเปล่า เช่น หิวนม , หิวน้ำ , ผ้าอ้อมชุ่มฉี่ หรืออึ บางครั้งก็อาจจะอยู่ในท่านอนที่ไม่สบายตัว เป็นต้น
- ใช้สีสันสดใสมาหลอกล่อ เมื่อเด็กมีอายุได้ 1-2 เดือน จะมีพัฒนาการทางด้านสายตาชัดเจนมากขึ้น และชอบมองสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยความสนใจ คุณจึงควรหาโมบายที่มีสีสันสดใส หรือเป็นรูปตุ๊กตาสัตว์ต่างๆ มาแขวนไว้ ส่วนเด็กที่โตขึ้นมาอีกหน่อย ก็ลองหาสมุดภาพสีสันสดใส มาดึงความสนใจของเขาก็ได้
- ใช้เสียงเพลง เสียงดนตรีทำให้ผู้ใหญ่เกิดความผ่อนคลายฉันใด เด็กก็รู้สึกฉันนั้น แต่สำหรับเด็กควรเป็นเพลงที่มีความหมายในแง่บวก ช่วยในเรื่องของความผ่อนคลาย อย่างเพลงกล่อมเด็ก หรือเพลงคลาสสิกของ Mozart เป็นต้น
- สัมผัสอันแผ่วเบา สามารถช่วยทำให้ลูกน้อยเกิดความผ่อนคลายได้ ไม่ว่าจะเป็นการลูบไล้ศีรษะด้วยความอ่อนโยน ตบก้นเบาๆ นวดเบาๆตามลำตัวให้แก่ลูก เด็กจะรู้สึกสบายและรับรู้ว่าได้รับการเอาใจใส่มาก
- นวดศีรษะให้ลูกที่บริเวณขมับเบาๆ ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการงอแงได้ เริ่มจากจับทารกนอนลงบนเบาะ จากนั้นให้คุณค่อยๆใช้นิ้ว นวดวนที่บริเวณขมับเบาๆ ในขณะเดียวกันก็ชวนลูกพูดคุยไปด้วย ด้วยน้ำเสียงสดใส อ่อนโยน เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้ลูกรู้สึกสบายตัวขึ้นแล้ว
- พาเจ้าตัวน้อยออกไปเปลี่ยนบรรยากาศ พร้อมสูดอากาศอันแสนสดชื่น ถ้าลูกโตขึ้นมาหน่อย ให้คุณพานั่งรถเข็นออกไปเดินเล่นแถวบ้านดูบ้าง สร้างความเพลิดเพลินจากวิวรอบๆ ด้าน จะช่วยทำให้เด็กสงบลงและได้พักผ่อนหย่อนใจ
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณลองมาแล้วทุกวิธี เอาใจสารพัด แต่เจ้าตัวน้อยก็ยังมีอาการแผดเสียงร้องดังๆ อยู่บ่อยๆ ขอแนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ เพื่อให้เช็คดูว่าลูกของคุณมีอาการผิดปกติในด้านไหนหรือไม่ ถ้ามีอาการผิดปกติจริงคุณหมอจะได้จ่ายยาเพื่อทำการรักษาทันที แต่ถ้าไม่มีอาการบ่งชี้ของโรค คุณก็จะได้ขอคำปรึกษาจากคุณหมอเสียเลย