อาหารสำหรับเด็กแรกเกิดตามช่วงอายุ

อาหารถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากต่อการดำรงชีวิตของทุกๆ คนเรียกว่าตั้งแต่คลอดออกมาเป็นทารกก็จำเป็นต้องทานอาหารตั้งแต่วันแรกแล้ว เพราะอาหารจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างสิ่งต่างๆ ภายในร่างกายให้เติบโตขึ้นมากลายเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข คนเราจึงจำเป็นต้องทานอาหารทุกวัน แต่สำหรับคนที่โตกันแล้วการเลือกทานอาหารก็สามารถทำได้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับเด็กแรกเกิดคนที่จะต้องหาอาหารให้เด็กทานก็คือ พ่อแม่ผู้ปกครองที่เป็นคนดูแลไม่


จริงๆ แล้วหากพูดกันในหลักวิชาการอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กแรกเกิดที่สุดก็ต้องเป็นนมแม่ เพราะนมแม่จะมีสารอาหารที่เด็กแรกเกิดทุกคนต้องการครบถ้วนที่สุด เรียกได้ว่าไม่จำเป็นต้องทานอาหารอย่างอื่นเข้าไปเลย โดยปริมาณของนมแม่ที่เด็กแรกเกิดทานนั้นก็ไม่ได้มีระดับเกณฑ์ที่ตายตัวว่าจะต้องดื่มเท่าไหร่ มันขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคนว่าเขาต้องการทานในปริมาณที่มากเท่าไหร่ เมื่อเขาทานจนอิ่มแล้วก็จะเลิกทานไปเอง แต่หากไม่แน่ใจว่าที่ลูกทานนมแม่อยู่นั้นเป็นการทานปกติหรือทานเพราะความสนุกสนานก็ลองให้จับเวลาการทานดูปกติการทานนมแม่ของเด็กแรกเกิดควรอยู่ระหว่าง 20-30 นาที ส่วนจำนวนครั้งในการให้นมก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเด็กเป็นหลัก แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ควรให้สัก 8 ครั้งต่อวัน เพื่อทำให้แน่ใจว่าเด็กอิ่มและได้สารอาหารที่เพียงพอจากการทานนมแม่ในแต่ละวัน
อย่างไรก็ตามสำหรับนมแม่ที่ให้เด็กแรกเกิดทานส่วนใหญ่แล้วจะให้ทานจนถึงอายุประมาณ 5-6 เดือน เพราะเมื่อเด็กเริ่มโตขึ้นอาหารอย่างอื่นก็เริ่มเป็นสิ่งสำคัญที่เด็กควรได้ทานด้วยเช่นเดียวกัน อย่างเช่นเมื่อเด็กเริ่มอายุได้ 6 เดือน ก็ควรจะเริ่มมีการให้อาหารชนิดอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่นมแม่อย่างเดียวจำพวก อาหารบด ให้ทานสักมื้อหนึ่งในแต่ละวัน วัตถุดิบที่เอามาใช้บดก็อาจเป็นพวกเนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อปลา ฟักทองต้ม กล้วย เพื่อให้เด็กได้เริ่มหัดทานอาหารหลายๆ อย่างมากขึ้น พอวัยเริ่มโตขึ้นสัก 8-9 เดือนก็ให้ทานอาหารบดเช่นเดียวกันแต่เปลี่ยนจำนวนจากวันละมื้อมาเป็นวันละ 2 มื้อ ก็ได้ แต่นมแม่ก็ยังคงเป็นนมที่เด็กในวันนี้ต้องการอยู่
สำหรับเด็กที่ไม่สามารถทานนมแม่ได้ตั้งแต่แรกเกิดจริงๆ แล้วปัจจุบันก็มีนมประเภทต่างๆ มากมายที่ถูกผลิตขึ้นมาสำหรับเด็กที่มีปัญหากับนมแม่ พ่อแม่ผู้ปกครองที่ดูแลเองก็สามารถเลือกซื้อนมในลักษณะต่างๆ เพื่อให้เด็กแรกเกิดได้ทานได้ หากไม่แน่ใจก็ลองปรึกษากับโรงพยาบาลว่าเด็กสามารถทานนมแบบไหนได้บ้างเพื่อความสบายใจ